คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 16
อ่านแล้ว ขออนุญาตตอบแบบตรงไปตรงมาอย่างที่สุด
ผมเข้าใจสภาพจิตใจของน้องจขกท.มาก ทั้งชีวิตเหมือนถูกกดทับ และไม่สามารถใช้ชีวิตแบบยอมรับตัวเองได้
สิ่งที่ผมจะบอกน้องคือ วิกฤตที่คุณพ่อคุณแม่ต้องเผชิญอยู่ตอนนี้ เป็น "เรื่องที่จำเป็นต้องเกิด" ครับ
เพื่อให้พ่อแม่ได้เจอบททดสอบที่ช่วยทำให้พ่อแม่ "ยอมรับความจริง"
ตลอดชีวิตที่ผ่านมาพ่อแม่ของน้องอยู่ด้วยการปิดหูปิดตาตัวเอง และยังปิดหูปิดตาคนใกล้ชิด
ไม่ให้เผชิญกับความจริงที่เกิดตรงหน้า
เพียงเพราะ พ่อกับแม่ "อยู่กับ FEAR-ความกลัว" นั่นเอง
ด้วยความกลัวชีวิต กลัวมันไม่เป็นไปแบบที่คาดหวัง พ่อกับแม่ใช้วิธีต่างกันในการรับมือ
พ่อใช้วิธี "บังคับควบคุม (Control)" แม่ใช้วิธี "โลกสวย (Delusion)"
เพื่อจะไม่ต้องยอมรับว่าเกิดอะไรขึ้นในชีวิต
แต่วิธีเดิมของพ่อแม่มันใช้ไม่ได้ผลอีกต่อไปแล้ว ความจริงตามไล่ล่าท่านแล้ว
ท่านจำเป็นต้องผ่านวิกฤตนี้ให้ได้และเติบโต เหมือนเมล็ดพืชที่ต้องแทงทะลุดินเพื่อรับแสงแดด
พ่อแม่ทำตัวเป็นเมล็ดที่ฝังดินแคระแกร็นมานานแล้ว ถึงเวลาต้องแทงทะลุดินเสียที
หากน้องเข้าใจว่าวิกฤตไม่ใช่เรื่องบังเอิญแต่เป็นความจำเป็นอย่างยิ่ง
น้องจะปล่อยวางปัญหาของพ่อแม่ได้ แล้วหันมาจัดการกับชีวิตตัวเองครับ
เพราะน้องเองก็มีบททดสอบของชีวิตที่ต้องสอบให้ผ่านเช่นกัน คือ การยอมรับและรักตัวเองอย่างไม่มีเงื่อนไข
ผมจึงอยากให้น้องใช้เวลาช่วงเติบโต สร้างชีวิตตัวเองให้ดี ให้แข็งแรง
มีงานที่รัก มีเพื่อนที่ดี มีคนรักที่ดี มีชีวิตที่ดี
ไม่ว่าพ่อกับแม่จะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยก็ตาม
ขอให้วงจรของ "ความกลัว" จบลงที่ตัวน้อง ไม่ส่งต่อไปให้ใครอื่นอีก
ขออนุญาตเล่าเรื่องจริงของรุ่นพี่คนนึง ผมประทับใจมาก จำฝังใจเลยครับ
คิดว่าน่าจะมีประโยชน์กับน้องบ้าง
(อยู่ในคห. 18 นะครับ)
*อ้าว พิมพ์ช้าไป ข้ามไป 1 คห. เลย*
ผมเข้าใจสภาพจิตใจของน้องจขกท.มาก ทั้งชีวิตเหมือนถูกกดทับ และไม่สามารถใช้ชีวิตแบบยอมรับตัวเองได้
สิ่งที่ผมจะบอกน้องคือ วิกฤตที่คุณพ่อคุณแม่ต้องเผชิญอยู่ตอนนี้ เป็น "เรื่องที่จำเป็นต้องเกิด" ครับ
เพื่อให้พ่อแม่ได้เจอบททดสอบที่ช่วยทำให้พ่อแม่ "ยอมรับความจริง"
ตลอดชีวิตที่ผ่านมาพ่อแม่ของน้องอยู่ด้วยการปิดหูปิดตาตัวเอง และยังปิดหูปิดตาคนใกล้ชิด
ไม่ให้เผชิญกับความจริงที่เกิดตรงหน้า
เพียงเพราะ พ่อกับแม่ "อยู่กับ FEAR-ความกลัว" นั่นเอง
ด้วยความกลัวชีวิต กลัวมันไม่เป็นไปแบบที่คาดหวัง พ่อกับแม่ใช้วิธีต่างกันในการรับมือ
พ่อใช้วิธี "บังคับควบคุม (Control)" แม่ใช้วิธี "โลกสวย (Delusion)"
เพื่อจะไม่ต้องยอมรับว่าเกิดอะไรขึ้นในชีวิต
แต่วิธีเดิมของพ่อแม่มันใช้ไม่ได้ผลอีกต่อไปแล้ว ความจริงตามไล่ล่าท่านแล้ว
ท่านจำเป็นต้องผ่านวิกฤตนี้ให้ได้และเติบโต เหมือนเมล็ดพืชที่ต้องแทงทะลุดินเพื่อรับแสงแดด
พ่อแม่ทำตัวเป็นเมล็ดที่ฝังดินแคระแกร็นมานานแล้ว ถึงเวลาต้องแทงทะลุดินเสียที
หากน้องเข้าใจว่าวิกฤตไม่ใช่เรื่องบังเอิญแต่เป็นความจำเป็นอย่างยิ่ง
น้องจะปล่อยวางปัญหาของพ่อแม่ได้ แล้วหันมาจัดการกับชีวิตตัวเองครับ
เพราะน้องเองก็มีบททดสอบของชีวิตที่ต้องสอบให้ผ่านเช่นกัน คือ การยอมรับและรักตัวเองอย่างไม่มีเงื่อนไข
ผมจึงอยากให้น้องใช้เวลาช่วงเติบโต สร้างชีวิตตัวเองให้ดี ให้แข็งแรง
มีงานที่รัก มีเพื่อนที่ดี มีคนรักที่ดี มีชีวิตที่ดี
ไม่ว่าพ่อกับแม่จะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยก็ตาม
ขอให้วงจรของ "ความกลัว" จบลงที่ตัวน้อง ไม่ส่งต่อไปให้ใครอื่นอีก
ขออนุญาตเล่าเรื่องจริงของรุ่นพี่คนนึง ผมประทับใจมาก จำฝังใจเลยครับ
คิดว่าน่าจะมีประโยชน์กับน้องบ้าง
(อยู่ในคห. 18 นะครับ)
*อ้าว พิมพ์ช้าไป ข้ามไป 1 คห. เลย*
แสดงความคิดเห็น
อยากฆ่าตัวตาย ปัญหาเยอะจัง ช่วยรับฟังได้ไหมครับ